ผลลัพธ์ตามข้อตกลง
ในการพัฒนางาน (วPA)
นางสาวอัจฉรา อินทรรุจิกุล
ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง
เทศบาลเมืองแพร่ กระทรวงมหาดไทย
ระหว่างวันที่ 1 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
ถึงวันที่ 30 เดือน มีนาคม 2567
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 21 ชั่วโมง/สัปดาห์ ดังนี้
- กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1-1/5 จำนวน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์
- กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
*กิจกรรมยุวกาชาดชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
หลักฐานอ้างอิง 1.1
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
จำนวน 11 ชั่วโมง/สัปดาห์
การออกแบบและจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 5 ชั่วโมง
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ จำนวน 2 ชั่วโมง
การสร้างและพัฒนาสื่อการเรียนการสอน จำนวน 3 ชั่วโมง
การเข้าร่วมและเป็นผู้นำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ จำนวน 1 ชั่วโมง
หลักฐานอ้างอิง 1.2
การออกแบบ/จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
หลักฐานอ้างอิง 1.2 (ต่อ)
การเข้าร่วมและเป็นผู้นำชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
การสร้าง/พัฒนาสื่อการเรียนการสอน
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
\จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานธุรการชั้นเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
การจัดทำวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียน จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
งาน KM (Knowledge management)กับเพื่อนครู จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
งานร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(PLC) จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
หลักฐานอ้างอิง 1.3
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น
จำนวน 9 ชั่วโมง/สัปดาห์
2. ออกแบบการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(ภาษาอังกฤษ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญตามหลักสูตร โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียนและท้องถิ่น
3. จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
นักเรียนได้เรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีคุณภาพมีบันทึกผลหลังสอนที่สะท้อนผล
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้และพัฒนานักเรียนให้เต็มตามศักยภาพ
เกิดการเรียนรู้และทำงานร่วมกันมีกระบวนการคิดและค้นพบองค์ความรู้
ด้วยตนเอง ทำให้นักเรียนร้อยละ 80มีผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผลการประเมินการฟัง พูด อ่าน เขียนและผลสัมฤทธิ์ภาษาอังกฤษและมีสมรรถนะ ที่สำคัญตามหลักสูตร สูงกว่าเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
4. สร้างและหรือพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้ผลิตสื่อการสอน
รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่สอดคล้องกับกิจกรรม
การเรียนรู้ สามารถแก้ไขปัญหาในการเรียนรู้ของผู้เรียน และทำให้ผู้เรียน มีทักษะการคิดและสามารถสร้างนวัตกรรมได้ และเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างและพัฒนาสื่อนวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้
5. วัดและประเมินผลการเรียนรู้
มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น ทดสอบการฟัง พูด อ่าน และเขียน สังเกตพฤติกรรม การเรียนรู้ สังเกตพฤติกรรมการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน
การเรียนรู้ ให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และนำผลการวัด
และประเมินผล การเรียนรู้มาใช้แก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้
สร้างเครื่องมือวัดและประเมินผล เช่น
-แบบทดสอบการฟัง การพูด การอ่านและการเขียน
-แบบสังเกตพฤติกรรม เพื่อการพัฒนาผู้เรียนตามสภาพจริง
หลักฐานอ้างอิง วัดและประเมินผลการเรียนรู้
6. ศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหา
หรือพัฒนาการเรียนรู้
-
- วิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล
- จัดกลุ่มนักเรียน
- วางแผนพัฒนานักเรียนตามศักยภาพและความแตกต่างระหว่างบุคคล
จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
- มีการจัดบรรยากาศที่เหมาะสม สอดคล้องกับความแตกต่าง
ผู้เรียนรายบุคคล สามารถแก้ไขปัญหาการเรียนรู้ การสร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิตทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
- จัดบรรยากาศห้องเรียนให้ได้ห้องเรียนมาตรฐานคุณภาพ
8. อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
- อบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 8 ประการ
โดยคำนึงถึงความแตกต่างของผู้เรียนรายบุคคลและสามารถแก้ไขปัญหาผู้เรียนได้
- จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์
- จัดกิจกรรมแนะแนวพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุน
1. จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน
- มีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนโดยการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน นำข้อมูลมาใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ แก้ไขปัญหาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
2. ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียนทั้ง 5 ขั้นตอนอย่างทั่วถึง
2. ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียนทั้ง 5 ขั้นตอนอย่างทั่วถึงครบทุกคน
ได้แก่ การรู้จักนักเรียนรายบุคคล การคัดกรอง การป้องกันและแก้ปัญหา การส่งเสริมพัฒนานักเรียน และการส่งต่อ มีการเยี่ยมบ้านและแก้ปัญหานักเรียนเป็นรายบุคคล
3. ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่นๆของสถานศึกษาได้แก่
ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้ากลุ่มงาน ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เป็นคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน(ตัวแทนครู)
คณะกรรมการปฏิบัติงานบริหารกลุ่มวิชาการ ให้คำปรึกษาคณะครูสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย
4. ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ เพื่อ ร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียน
- ร่วมกิจกรรมประชุมผู้ปกครองในภาคเรียนที่ 1 และร่วมประชุมผู้ปกครองในโครงการสนทนาศิษย์-ลูก ในภาคเรียนที่ 2
- จัดให้มีช่องทางต่างๆ ในการติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองและภาคีเครือข่าย
3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
1.มีการพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
โดยการเข้าอบรม/ประชุม/สัมมนา เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษา สมรรถนะวิชาชีพครูและความรอบรู้ในเนื้อหาวิชาและวิธีการสอนและนำผลการพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพมาใช้ในพัฒนาสื่อและการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งรูปแบบ
การสอนปกติและ Online
2. เข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มเพื่อพัฒนางานด้านวิชาชีพ(PLC) นำความรู้ที่ได้มาสร้างสื่อและนวัตกรรมเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
3. นำความรู้ความสามรถที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา การจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีความบกพร่อง (dyslexia) ด้านการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษ เช่น ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดภาษาอังกฤษไม่ชัด อ่านไม่ออก สะกดคำไม่ถูก และเขียนไม่เป็น ทำให้เกิดอุปสรรคในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ (learning difficulties & disabilities) ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาภาษาอังกฤษต่ำ จึงได้แสวงหาเทคนิคการจัดการเรียนรู้ โดยการอ่านถอดรหัสเสียงแบบ Phonics จากแหล่งต่างๆ ที่เคยมีผู้สร้างทำไว้แล้ว นำมาปรับปรุงและพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยการนำเทคนิคการจัดการเรียนรู้ การอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษด้วยระบบถอดรหัสเสียงและตัวอักษรแบบ Phonics
ขั้นตอนการสอน Phonics เพื่อแก้ปัญหาการฟังพูด อ่าน และเขียน
โดยใช้ เทคนิคการจัดการเรียนรู้ โดยการอ่านถอดรหัสเสียง
แบบ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
1.นำเข้าสู่บทเรียน
2. นำเสนอคำศัพท์และรับรู้หน่วยเสียง
3. แยกหน่วยเสียงในคำและผสมหน่วยเสียง
4. ทำความเข้าใจความหมายคำศัพท์
5. นำคำศัพท์ไปใช้ในประโยค
ผลการผลการปฏิบัติกิจกรรม แบบฝึกทักษะการอ่าน
และถอดรหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษ Phonics
จากการปฏิบัติการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการนำเทคนิคการจัดกิจกรรมเรียนรู้การอ่านถอดรหัสเสียงแบบ Phonics กับ นักเรียนชั้นประถมชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 27 คน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรม 12 ชั่วโมง โดยกำหนดคำในการฝึก จำนวน 50 คำ ผลปรากฏว่านักเรียนสามารถอ่านและถอดรหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษ Phonics ให้เป็นเสียงได้ระดับดีมาก คือ อ่านและถอดรหัสตัวอักษรได้ 41-50 คำ จำนวน 13 คน คิดเป็นร้อยละ 59.09 ระดับดี คือ อ่านและถอดรหัสตัวอักษรได้ 31-40 คำ จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 40.91 จะเห็นว่าจากการให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมแบบฝึกทักษะ จำนวน 50 คำ ภาพรวมนักเรียนมีการพัฒนาการอ่านถอดรหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษ Phonics ได้ในระดับดีมาก คือ ร้อยละ 82.36 นักเรียนเกิดความมั่นใจใน การอ่านออกเสียงคำในภาษาอังกฤษและความมั่นใจ กล้าพูด และอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษมากขึ้น
ตารางแสดงผลการปฏิบัติกิจกรรมแบบฝึกทักษะการอ่านและถอดรหัสตัวอักษรภาษาอังกฤษ Phonics Short vowel sounds
ผลการอ่านผสมคำแบบ Phonices ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา 1/1
โรงเรียนเทศบาลวัดเหมืองแดง จำนวน 27 คน แสดงเป็นร้อยละได้ดังนี้
/a/ | /e/ | /i/ | /o/ | /u/ | รวม |
8.45 | 8.18 | 8.09 | 8.23 | 8.23 | 41.18 |
84.55 | 81.82 | 80.91 | 82.27 | 82.27 | 82.36 |
THE END
Thank
You